ร้านค้าขายดีมาก ทำไมถึงเจ๊ง

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าขายไม่ได้สิถึงเจ๊ง ขายดีแล้วจะเจ๊งได้อย่างไร…

มีร้านจำนวนไม่น้อยขายของดี  ลูกค้าเยอะ  ซื้อของเข้าตลอด แต่พอเช็คบัญชี ทำไมแทบไม่เหลือกำไร ทั้งที่ทุ่มเททำทุกอย่างเต็มที่ ดูแลบริหารงานจัดการเองแบบใกล้ชิดจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ทำดีแล้ว แต่ยังดีไม่ถูกจุด!!

“การขายดีแล้วเจ๊ง”  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับร้านค้าจำนวนมาก ใครจะไปคิดว่าคนที่ขายของได้ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สุดท้ายแล้วไม่รู้เงินหายไปไหนหมด เมื่อขายของได้ก็ดีใจ แต่ก็ลืมนึกถึงเรื่องบริหารจัดการเงิน สต๊อกสินค้า หรือบางร้านบริหารไม่เป็นไม่รู้จะจัดการยังไงบางร้านนำเงินรายรับที่ได้ไปใช้ในส่วนอื่นแบบสูญเปล่า จนทำให้ธุรกิจเจ๊งไม่มีเงินทุนสำรองจนถึงขั้นต้องปิดกิจการลง…..

ลองมาดูสาเหตุหลักของปัญหาที่ขายดีแต่เจ๊งกัน….

1.  ไม่มีการบันทึกรายรับรายจ่าย ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะมองข้ามเรื่องนี้ อาจจะเพราะไม่รู้จะลงรายรับรายจ่ายยังไงดี หรือบอกว่าไม่มีเวลาบ้าง แต่ถ้าเราไม่ทำบันทึกรายรับรายจ่ายเราก็จะไม่รู้เลยว่า ร้านของเรามีรายรับรายจ่ายเท่าไหร่แล้วบ้าง การนำเงินไปใช้จ่ายต่างๆ ก็จะไม่คล่องตัว

2.  ควบคุมสต๊อกสินค้าไม่ได้ อีกหนึ่งสาเหตุที่ขายดีแต่เจ๊ง เมื่อขายดีก็สต๊อกของมากขึ้น หรือสินค้าที่ขายดีอาจจะกำไรน้อย การสต๊อกสินค้าที่เยอะขึ้นก็ทำให้เงินจม ขาดเงินหมุนในร้าน

3. พนักงานโกง มีร้านค้าจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เลือกจะจ้างพนักงานดูร้าน เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าของร้าน แต่อีกมุมก็เจอปัญหาตลอดคือ ด้วยความไว้วางใจที่เจ้าของร้านมีให้พนักงาน หรือเวลาเจ้าของร้านไม่อยู่ร้าน กลับดันถูกพนักงานแอบโกงในหลายๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็น พนักงานแอบขโมยของบ้าง แอบขโมยเงินในลิ้นชักบ้าง ขายของแพงกว่าราคาที่กำหนดแล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋าบ้าง

ถึงอย่างไรก็ยังมีผู้ประกอบหารหลายรายที่ปิดกิจการไปเพราะการขายดีแล้วเจ๊ง แต่สุุดท้ายก็กอบกู้กิจการกลับมาได้ใหม่ นั่นเพราะเขายังรู้ถึงสาเหตุของปัญหา และรู้วิธีหารป้องกันและแก้ไขเป็น

แรงจี้เป็นกำลังใจให้ร้านค้าปลีกทุกร้าน