สนุกสนานไปกับการเที่ยวชมเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ mobile ในงาน MWC 2016 แล้วยังได้เข้าเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักธุรกิจชาวจีนที่ Baidu, Huawei, และ Pudong Software Park ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำจริงๆ
งาน Mobile Wold Congress Shanghai เป็นเสมือนงานลูกของ Mobile World Congress Bacelona ที่เป็นงานใหญ่ (น่าจะที่สุดแล้วนะ) ที่จัดขึ้นช่วงต้นปีทุกปีที่ประเทศสเปน ซึ่งมักจะเป็นงานที่แบรนด์ใหญ่ๆไปเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆกัน แต่งานที่เซี่ยงไฮ้เหมือนว่าจะเอาใจผู้บริโภคทางเอเชียมากกว่า เอางานมาให้ใกล้พวกเรา ค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ได้เห็นของล้ำเหมือนกัน มาดูกันซิว่างานนี้เราจะได้เห็นอะไรบ้าง
พวกเราไปถึงกันเย็นวันที่ 27 มิ.ย. เลยทำอะไรไม่ได้มากนอกจากแวะเที่ยวที่ถนนนานจิง ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังของเมืองเซี่ยงไฮ้ (แต่ไม่ได้ของติดมือมาเลย) แค่ได้สัมผัสบรรยากาศ ผู้คน และบ้านเมือง ก็เริ่มรู้สึกสนุกกับทริปนี้แล้ว
ศูนย์ R&D ของ Bai du ที่เซี่ยงไฮ้ ยิ่งใหญ่อลังการ
เช้าวันรุ่งขึ้น คณะของเรานำโดยคุณต่อ (เฉลิมพล ตู้จินดา) ผู้อำนวยการของ Software Park Thailand พาพวกเรามาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Baidu ยักษ์ใหญ่เรื่อง search engine ของประเทศจีน เพื่อฟังการบรรยายถึงที่มาที่ไปของไป๋ดู้ ที่ท้าชนได้แม้กระทั่ง Google (และสู้ได้ด้วย) โดย Mr.Andy ผู้บริหารของไป๋ตู้ ให้การต้อนรับและบรรยายประวัติความเป็นมา และแนวทางที่เขากำลังมุ่งไปได้น่าสนใจมาก
ที่ตลกก็คือ คุณแอนดี้ พึ่งจะบินจากเมืองไทยไปในวันเดียวกันเพื่อต้อนรับพวกเรา เพราะเขามีออฟฟิศที่เมืองไทย และไป๋ตู้ได้เข้ามาเริ่มทำธุรกิจในเมืองไทยบ้างแล้ว (เห็นทีคณะเราต้องนัดกับคุณแอนดี้อีกครั้งที่เมืองไทยเสียแล้ว)
สไลด์ที่คุณแอนดี้โชว์ให้พวกเราดูในวันนั้น เขารับปากว่าจะส่งให้พวกเราผ่านทางซอฟต์แวร์พาร์คด้วย ถ้าท่านใดสนใจอยากดูด้วย เชิญทักมาที่อีเมล์ผมนะครับ จะส่งให้ให้ (tinnakorn@rangypos.com)
ก่อนกลับพวกเราแวะทานอาหารกลางวันกันใน Cafeteria ของไป๋ตู้ แหม… บรรยากาศยังกะร้านกาแฟชิลล์ๆ น่านั่งร้านนึงเลย ต่อมความอิจฉาเริ่มทำงานหนักมาก ถ้าออฟฟิศบริษัทซอฟต์แวร์ที่เมืองไทยเราเป็นอย่างนี้บ้างก็คงดี
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะพวกเราแวะเที่ยวที่ Yuyun Garden พอให้ได้สัมผัสวัฒนธรรม ตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆกันบ้าง แถมด้วยซื้อของฝากกันนิดหน่อย จากนั้นก็ไป business matching กันที่ Pudong Software Park ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐของจีนที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เช่นกัน และเป็นแหล่งรวมคนในวงการ IT ที่นั่นด้วย
ตัวแทนของบริษัททั้งฝั่งจีนและฝั่งไทย ต่างก็มานำเสนอผลงานบนเวทีซึ่งกันและกัน เช่น คุณแม็ก StockRadar ก็ได้มาร่ายมนต์สะกดให้คนจีนเคลิ้มไปเหมือนกันว่าคนไทยเราก็ทำแอปดีๆสำหรับคนเล่นหุ้น และกำลังจะบุกไปตีตลาดที่จีนแล้วด้วย ส่วนทางจีนก็นำเสนอได้น่าสนใจเช่นกัน จุดสังเกตุคือ ทางจีนมักจะคิดใหญ่และทำได้ใหญ่กว่าพวกเรามาก เช่น รายนึงทำระบบ os ไปใช้ในโทรศัพท์มือถือให้กับผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่ๆหลายๆแบรนด์ ซึ่งคนที่ทำนี้ก็อายุไม่มากนัก แต่เขาช่างฝันใหญ่ และทำได้จริงๆ น่าเลื่อมใส
จากน้้นคุณต่อก็แนะนำตัวบริษัทไอทีของไทยทั้งหมดที่ร่วมคณะไป และเปิดให้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความรู้จักและหาลู่ทางทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต
ถึงเวลาชมงาน MWC Shanghai 2016 กันแล้ว
เช้าวันที่ 29 มิ.ย. พวกเราขึ้นรถบัสฝ่ารถติดในเมืองเซี่ยงไฮ้ไปงาน Mobile World Congress Shanghai 2016 กัน พบว่าสถานที่จัดงานครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก เดินกันเหนื่อย มีของให้ดูให้ชมมากมาย ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเดิน ยกเว้นบางบริษัทที่มางานนี้เพื่อออกบูธแสดงสินค้าที่ต้องเฝ้าบูธเพื่อพูดคุยกับเขกที่มาเดินในงานในพื้นที่ Thailand Pawilion ที่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐหลายแห่งด้วยกัน
มีบูธของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายมาออกงานนี้ เช่น Visa มาโชว์เทคโนโลยีการรับชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ, Ford มาโชว์รถยนต์ในโลกอนาคต, หุ่นยนต์ก็มี, เทคโนโลยี IoT ก็มีให้เห็นมากมาย ซึ่งงานนี้มีแบ่งพื้นที่ไว้หลายโซน ตามกลุ่มความสนใจ น่าเสียดายอยู่บ้างที่บางบูธเป็นของคนจีนแต่คนเฝ้าบูธไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีพอ (แต่ซอฟต์แวร์พาร์คก็ช่วยเราเตรียมล่ามไว้คอยบริการด้วย ก็ช่วยได้มากทีเดียว)
เทคโนโลยีสุดล้ำ ใช้งานได้จริง เปิดตัวในงานนี้
ส่วนตัวผมชอบที่สุดอยู่ 2 บูธในงานนี้ คือบูธของ Akyumen ที่มาเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่เป็นโปรเจคเตอร์ในตัว บูธนี้มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างมาก อย่างแรกคือเจ้าของเป็นชาวอินเดียอายุ 32 ปี แต่เปิดบริษัทใน Silicon Valley สหรัฐอเมริกา และจ้างงานฝรั่งเป็นลูกน้องมากมาย อีกอย่างคือตัวสินค้าของ Akyumen เป็นสินค้าที่จับต้องได้จริงๆ ทำงานได้จริงๆ เอามาเปิดดูหนัง หรือใช้ไปนำเสนอสินค้าที่ไหนก็ได้ และเปิดให้ pre order ได้แล้วในราคาประมาณ 600 เหรียญ ถัดไปคือ จุดเด่นของเขาที่ผลิตโทรศัพท์ที่เป็นโปรเจคเตอร์ในตัวนี้ได้โดยทำให้เครื่องนี้ไม่ร้อนแม้ใช้งานจริงดูหนังจบเป็นเรื่องๆ (ซึ่งแม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆหลายรายพยายามทำเรื่องนี้ก็ทำไม่สำเร็จ)
พวกเราโชคดีมากที่ได้เจอตัวเขาและพูดคุยกัน และสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ว่าคนๆนี้อีกหน่อยเราจะได้อ่านเรื่องราวของเขาอีกมาก (ซึ่งตอนนี้เขาก็ดังอยู่แล้ว)
อีกบูธที่น่าสนใจคือ Graphene Pavillion ที่แสดงเทคโนโลยี Graphene (กราฟีน) ที่เป็นแผงวงจรที่ผลิตจากคาร์บอน ทำให้มีความทนทาน บางมาก และนำไปใช้ได้หลากหลาย เช่น นำไปทำเป็นส่วนประกอบของนาฬิกาข้อมือที่บิดงอได้ (เหมือนที่เคยเห็นในหนังไซ-ไฟ)
เดินไปเดิมมาจนเหนื่อย เลยแวะถ่ายรูปสาวๆในงานมาให้หนุ่มๆที่ชอบดูรูปกันพอหอมปากหอมคอ
ว่าที่จริงสาวๆที่นี่ก็สู้พริตตี้ที่บ้านเราไม่ได้นะ
สัมมนาดีบ่งบอกเทรนด์ และให้ความรู้จาก Speaker ชื่อดัง
วันที่ 30 มิ.ย. พวกเรากลับไปเดินงาน MWC Shanghai กันต่อ เพราะวันเดียวยังเดินไม่หมด ยังมีอะไรให้ไปลองเล่นลองใช้อีกเยอะ ทั้ง VR, หุ่นยนต์, และ drone แต่จุดสนใจของผมวันนี้อยู่ที่งานสัมมนา ที่อยากจะมาจับเทรนด์ว่าพัฒนาการเรื่อง mobile กำลังจะไปทางไหน
เทรนด์ที่ค่อนข้างชัดเจนตอนนี้คือ ยอดการขาย mobile phone ทั่วโลกจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอีกแล้ว ยกเว้นว่าจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆมากระตุ้นให้เกิดความต้องการได้ เช่น IoT มีวิทยากรบางท่านพูดว่า “รถยนต์ก็คือมือถือติดล้อ” แปลว่าอีกหน่อยมือถือทำอะไรได้รถยนต์ของคุณก็ทำได้เช่นกัน แม้แต่ใช้จ่ายเงินเมื่อไปซื้อของ
มีเทคโนโลยีนึงที่ผมทึ่งสุดๆ เรียกว่า Brainporting ที่เป็นการสื่อสารกับสมองของเรา เช่น “การทำให้คนตาบอดมองเห็นได้ผ่านลิ้น” โอ้ แม่เจ้า… เขาใช้ sensor จับภาพ แล้วแปลงสัญญาณเป็นข้อมูลส่งผ่านไปทางลิ้นไปถึงสมองของคนตาบอด ทำให้มองเห็นได้ (น่าเสียดายที่ยังไม่มีของจริงมาโชว์)
Huawei ไม่ได้มีดีแค่มือถือ
ช่วงบ่ายพวกเรามีโอกาสไปเยี่ยมชมบริษัท Huawei ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของจีน ที่ไกด์ชาวจีนเล่าให้ฟังว่า เจ้าของเขาเริ่มต้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เริ่มจากตกงานจากโรงงานแห่งนึง แล้วหาอะไรทำโดยการไปหาซื้อชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์มาประกอบเป็นสินค้ามาขาย ขายไปขายมา ธุรกิจไปได้ดี จนเติบโตมาถึงทุกวันนี้ (ส่วนตัวแล้วงงมาก เติบโตมายังไงเนี่ย เห็นทีต้องไปหาประวัติมาอ่านเพิ่มซะละ)
เทคโนโลยีที่เขาจัดแสดง ไม่ใช่เฉพาะตัวโทรศัพท์เท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น เสาสัญญาณทั้งภายนอกและภายในอาหาร ที่ทำให้เรารู้ว่าเขามองธุรกิจได้ครบจริงๆ และเชื่อแน่ว่าเขาเจาะตลาดคู่แข่งจากประเทศฝั่งตะวันตกได้สบาย
ตกเย็น ไปเดินเล่นแถวๆ หอไข่มุก ได้เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชาวเซี่ยงไฮ้กับอดีตอันขมขื่นในช่วงหลังสงครามฝิ่น ที่ต้องแบ่งพื้นที่ในเมืองให้กับอาณานิคมตะวันตก ประหนึ่งเป็นพื้นที่ของประเทศนั้นๆในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้เอง คนท้องถิ่นจะเดินเข้าไปก็ต้องขอนุญาติก่อน
ถ้าคุณยังไม่เก่ง เราจะสอนคุณให้เก่งขึ้น
วันที่ 1 ก.ค. เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้ พวกเรากลับเข้างาน MWC Shanghai 2016 อีกครั้งนึง เพื่อเก็บตกสิ่งที่น่าสนใจในงานอีก ผมได้แวะไปที่ 4YFN (4 Years From Now) ที่เป็นพื้นที่แสดงสำหรับ Startup ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราในอนาคต ได้นั่งฟัง startup หลายรายจากหลากหลายประเทศมา pitch ให้เราฟัง ก็สนุก และทำให้นึกเปรียบเทียบกับ startup ของบ้านเราเหมือนกัน
โชคดีที่ได้แวะไปนั่งฟังสัมมนา Pitching Workshop ของ Mr.Peter Hopwood ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการ pitching ที่ดีด้วยเคล็ดลับบางอย่าง เช่น เวลานำเสนอให้เปิดพื้นที่ช่วงท้อง, ลำตัว, และฝ่ามือ ให้ผู้ฟังเห็น เพราะจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความเปิดเผยและจริงใจของผู้พูด
ถ้าคุณอยากรู้เคล็ดลับให้ละเอียดกว่านี้ ลองเข้าไปดูที่ facebook live ของน้องคนนึงที่ร่วมคณะไปกับพวกเราได้ที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10153497161651106&id=673576105
ก่อนจากลางานนี้ เลยไปเก็บภาพสาวงามประจำงานอีกรอบ น้องคนนี้เป็นดีเจอยู่ที่บูธของชาวเกาหลี ที่ดึงดูดให้คนแวะบูธเขาได้มากตลอดเวลา แต่ไม่ค่อยมีคนสนใจสินค้าที่นำเสนอเท่าไหร่ (มัวแต่สนใจอย่างอื่น)
จัดอีกนะครับ คราวหน้าขอไป MWC Barcelono เลยละกัน
ต้องขอขอบคุณทีมงานภาครัฐหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Software Park Thailand ตั้งแต่คุณต่อ, คุณจิ๋ว, คุณปอย, คุณรชฎ และทีมงานล่ามและไกด์ทุกท่าน เห็นได้ชัดว่าพวกคุณทำงานกันเต็มที่และหวังดีกับคณะตัวแทนบริษัทไอทีทุกคนที่ร่วมคณะไปจริงๆ และเชื่อแน่ว่าหลายบริษัทจะได้ทั้งไอเดีย, และธุรกิจติดมือกลับมาอย่างแน่นอน (ถ้าเป็นไปได้คราวหน้าจัดไป Barcelona เลยนะครับ)
ผู้อ่านท่านใดอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมของงานนี้ ลองเข้าไปดูตามลิงค์นี้นะครับ
Official Website ของงาน Mobile World Congress Shanghai 2016
Blog ของดร.วิลาส ฉ่ำเลิศวัฒน์ Digital Innovator ที่เขียนถึงงาน MWC Shanghai 2016
http://wilas.chamlertwat.in.th/gsma-mobile-world-congress-shanghai-2016/
Slideshare ของ อ.ทีปกร ศิริวรรณ ผู้บริหารบริษัท CSI ที่ร่วมเดินทางไปกับทริปนี้ด้วย
https://www.slideshare.net/mobile/teepakornsiriwan/shanghai-experience-sharing
Holofone Projector Phablet โดย Akyumen
Software Park Thailand Official Website