ฟังคุณไวท์ (ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล) เล่าเรื่อง Transform มาหลายครั้ง ก็ประทับใจทุกครั้ง จนคราวนี้ต้องเอามาเขียนเล่าต่อให้ทุกคนได้ทึ่งเหมือนกันบ้าง

Transform ไปสู่โลกยุค Non Linear

เมื่อก่อนคนบนโลกนี้อยู่กับแบบ Linear ก้าวเดินจาก 1 ไป 2 ไป 3 ตามๆกันไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ยุค Non Linear แล้ว (แต่หลายคนยังไม่ตระหนัก) ลองสังเกตุพฤติกรรมการดูโทรทัศน์ของคนสมัยนี้สิ “นึกอยากจะดูเรื่องอะไร ตอนไหน ก็ดูได้ทันที” เข้า YouTube ก็ดูได้เลย

แต่สถานีโทรทัศน์ transform ตัวเองเข้าสู่ยุคนี้แล้วหรือยัง?

Workpoint เป็นรายแรกที่ทำได้สำเร็จ ที่ให้น้ำหนักกับโลกออนไลน์ มากกว่าช่องทีวีจริงๆ และทำให้รายการ The Mask Singer เป็นที่นิยมในเวลาอันสั้น (วันที่หน้ากากทุเรียนถอดหน้ากาก หลายคนก็ไม่ได้ดูจากทีวี แต่ดูผ่านมือถือ ใช่ไหม?)

Dark Factory ในจีนกำลังพุ่งทะยาน

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนตั้งงบกว่า 1 แสนล้านหยวน เพื่อผลักดันให้เกิด Dark Factory (โรงงานดับไฟ) หมายถึงโรงงานที่ใช้หุ่นยนต์ 100% ทำงานได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเปิดแสงส่วางในโรงงานเลย ที่น่าทึ่งคือเงินจำนวนนี้ถูกใช้หมดไปแล้ว และโรงงานดับไฟเหล่านี้กำลังผลิตของมาให้ทั่วโลกได้ใช้งานกันอยู่ทุกวัน และจะมากขึ้นด้วย ทำให้ต้นทุนการผลิตของจีนถูกลงไปอีก

ถ้าคุณทำโรงงานอยู่ คิดต่อไปนะว่าคุณจะสู้กับ Dark Factory ได้ยังไง?

เห็นโอกาสแล้วต้องรีบโดดเข้าใส่

“ในความเปลียนแปลง ย่อมต้องมีผู้เสียและได้ประโยชน์”

ถ้าเห็นโอกาสเมื่อไหร่ ให้รีบกระโดดเข้าไปทำทันที ตัวคุณไวท์เองได้กระโดดเข้าในธุรกิจ Prop Tech เมื่อหลายปีก่อน เพราะทำระบบ Touch Screen อัจฉริยะ จนเข้าตาบริษัทแสนสิริ แล้วนำไปสู่การพัฒนาระบบ touch screen เพื่อการขายคอนโด ที่สร้าง Immersive Experience ให้กับคนที่มาชมคอนโด และทำให้ปิดการขายได้ดีขึ้น

Immersive Experience สร้างลูกค้า

คนที่มาเลือกชมคอนโดได้รับประสบการณ์ที่คาดไม่ถึง เมื่อขับรถเข้าโครงการ ระบบของคุณไวท์จะบันทึกภาพ แล้วแจ้งไปที่พนักงานฝ่ายขายล่วงหน้า เมื่อลูกค้าเดินไปถึง Sale Office พนักงานจะนำเสนอโครงการผ่าน ipad พร้อมกับเก็บข้อมูลว่าลูกค้ารายนี้ สนใจห้องแบบไหน

จากนั้น ถ้าลูกค้ารายเดียวกันไปชมโครงการอื่นอีกของบริษัท ทันทีที่ลูกค้าขับรถเข้าโครงการ ประวัติการชมคอนโดของเขาจะปรากฏที่ ipad ของพนักงานทันที และรู้ได้ว่าจะนำเสนอห้องแบบใด งบเท่าไหร่ และรู้ด้วยว่าลูกค้ารายนี้กำลังสนใจจะซื้อคอนโดจริงๆ เพราะเข้าชมหลายโครงในพื้นที่นั้น ในระยะเวลาอันสั้น

ผลก็คือ “ขายได้ ขายดี ขายเร็วขึ้น”

จนนำไปสู่บริการอื่นๆร่วมกับบริษัท Fire One One ของคุณไวท์ มากขึ้นๆ

เป้าใหญ่คือ Dominant Platform

ดูเหมือว่าแค่ขายได้ ขายดีขึ้น จะเป็นเป้าที่ต่ำเกินไปเสียแล้ว

เมื่อเข้าอยู่กลางใจของผู้บริโภคได้แล้ว เป้าต่อไปคือ “ยึดครอง” ให้เบ็ดเสร็จ เช่น การบริการที่ต่อเนื่องกับลูกบ้านผ่านแอป ที่มีเปอร์เซ็นต์การใช้งานสูงถึง 60% ของผู้ใช้กว่า 15,000 รายในขณะนี้ และตั้งเป้าไปสู่ 1 แสนราย เร็วๆนี้ ทำให้ระบบบริการลูกบ้านนี้จะกลายเป็น dominant platform ที่ไม่ใช่เฉพาะโครงการของแสนสิริเท่านั้นที่นำไปใช้งาน แต่นำไปใช้ได้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายอื่นด้วย

วันนั้นฟังตัวเลขคาดการณ์รายได้แล้ว “ขนลุก” เลย ตื่นเต้นและคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะก้าวไกลได้ถึงเพียงนี้

คุณไวท์ใช้คำว่า “dominant แล้วกินให้ลึก”

สร้าง Evangelist ของสินค้าเราให้ได้

ลูกค้าของเราเริ่มต้นจาก Follower ที่คอยติดตามข่าวสาร จนวันหนึ่งขยับมาเป็น Paying Customer ที่ยอมควักเงินจ่ายให้เรา

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น

เรายังสามารถทำให้เขาเป็น Fan ที่คอยชื่นชม และตามซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเราได้ด้วย

แต่อันสุดท้ายนี่เลิศที่สุด คือ Evangelist ที่เป็นแฟนพันธ์แท้ ที่คอยปกป้องเราด้วย ถ้ามีใครต่อว่าเรา เขาจะคอยเถึยงแทน

ถ้าคุณสร้าง Evangelist ของคุณได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะกินได้ลึก กินได้ยาว มากเท่านั้น (ลองสังเกตุ Apple เป็นตัวอย่างสิ)

 

ขอบคุณ DEPA กับโครงการ Tech Tycoon

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณไวท์ (ชาคริต จันทร์รุ่งสกุล) เป็นอย่างมากที่แบ่งปันความรู้ที่น่าทึ่ง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ DEPA หน่วยงานภาครัฐที่คอยส่งเสริมอุตสาหกรรม digital ที่จัดงาน Tech Tycoon ขึ้น และคัดเลือก Rangy ให้เป็นส่วนหนึ่งของงาน ทำให้เราได้ความรู้เอามาแบ่งปันกันต่อได้

และแน่นอนที่สุดว่า Rangy ก็จะพยายามสร้าง Dominant Platform ให้ลูกค้าของเราประทับใจและกลายเป็น Evangelist เช่นกัน