BOI building

BOI building

ใช้เวลาน้อยนิด ได้ประโยชน์เกินคุ้ม
เรื่องนี้เล่าจากประสบการณ์ตรงที่ผมไปขอส่งเสริมจาก BOI มาครับ ง่ายจริง อะไรจริง (อย่างคาดไม่ถึง) แค่เราต้องเข้าใจกฎเกณฑ์และขั้นตอนเท่านั้น กรณีของผมเริ่มจากเราทำบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่แล้ว และกำลังคิดจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และโชคดีที่ได้ไปรับฟังการสัมนาที่จัดโดย Thailand Tech Startup ช่วงปลายเดือนกันยายน 2557 ทำให้เห็นประโยชน์ว่า ถ้าเราได้รับการส่งเสริมก็จะได้ลดหย่อนภาษีเงินได้ นิติบุคคลเป็นเวลาถึง 8 ปี และหากเรามีการจ้างงานชาวต่างชาติ กระบวนการต่างๆก็จะทำได้ง่ายและเร็ว

เมื่อตัดสินใจจะส่งเรื่องเข้าขอรับการส่งเสริม ก็ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่าแค่กรอกแบบฟอร์มไม่กี่หน้า กระดาษก็พร้อมยื่นได้แล้ว และหลังยื่นไปไม่เกิน 15 วันทำการ ทางหน่วยงานก็จะแจ้งผลให้ทราบ ผมก็จัด

เลยครับ ยื่นเอกสารไปวันที่ 13 ตุลาคม แล้วก็รอผล และก็… ได้รับข่าวดี ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2557 ว่า “เรื่องของคุณได้รับการอนมัติแล้วนะคะ” เป็นปลื้มเลยครับ!

 

ขั้นตอนการขอรับการส่งเสริม

  1. ยื่นแบบฟอร์ม F PA PP 04-05

แบบฟอร์มแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะแตกต่างกัน ต้องเลือกแบบฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา สำหรับของผมและธุรกิจ IT ทั้งหลายต้องเป็นฟอร์ม F PA PP 04-05 นี้เท่านั้น (ข้อความจะแตกต่างกันบ้าง และศัพท์บางคำก็ทำให้สับสนบ้าง) เจ้าหน้าที่ก็ใจดีมีคำแนะนำให้ ลองไปโหลดดูได้ที่ http://www.boi.go.th/index.php?page=form&language=th เลือก “คำขอรับการส่งเสริมกิจการประเภท 5.8 และ 5.9 แล้วก็กรอกไปเลยครับ

ข้อที่มีปัญหาสำหรับผมคือเรื่องงบลงทุนกับตัวเลขประมาณการณ์ต่างๆ แต่เมื่อมาทบทวนถึงวัตถุประสงค์หลัก ของการส่งเสริมอันนี้แล้วก็เข้าใจได้ว่า ภาครัฐมีกระบวนการนี้เพื่อส่งเสริมให้เอกชนลงทุนเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคคลากร, ที่ดินและอาคาร, และเครื่องจักรต่างๆ ยิ่งมีการลงทุนก็ยิ่งสร้างงานและสร้างรายได้เข้าประเทศ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการให้กรอกในฟอร์มเหล่านี้คือ “เราจะลงทุนเพิ่มเท่าไหร่” (ซึ่งถึงเวลาจริงอาจไม่เท่ากับที่แจ้งไว้ก็ได้)

เมื่อเข้าใจวัตถุประสงค์แล้วก็กรอกได้ง่ายครับ เราคาดว่าจะลงทุนอะไร เท่าไหร่ และตัวเลขสัมพันธ์กันหรือเปล่า เช่น จะจ้างคนเพิ่ม 20 คน แล้วมีงบสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือออฟฟิศสำหรับจำนวนคนตามนี้หรือไม่

ส่วนตัวผมก็ต้องปรับแก้นิดหน่อย แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจดี ช่วยแนะนำและให้แก้ไขตัวเลขต่างๆ ณ วันที่ไปยื่นเอกสารได้เลย แล้วเซ็นต์กำกับไว้เท่านั้น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากลับมาแก้ไข

  1. พรีเซ็นต์งานกับเจ้าหน้าที่

หลังจากยื่นไปไม่กี่วัน ผมก็ได้รับอีเมล์แจ้งมาว่าขอนัดให้เข้ามาพรีเซ็นต์งาน โดยขอให้เตรียมไฟล์เป็น powerpoint และมีตัวอย่างให้ด้วยว่าควรมีหัวข้ออะไรบ้าง (ถ้าใครอยากได้ตัวอย่างก็ส่งอีเมล์มาขอผมได้นะครับที่ tinnakorn@rangypos.com ) ก็ทำตามตัวอย่างเลยครับ

ข้อนี้ไม่ต้องกังวลทางเทคนิคเลยนะครับ เจ้าหน้าที่เขาไม่ได้ต้องการให้เราไปสอนศัพท์ IT ให้เขา เขาแค่ต้องการมั่นใจได้ว่าเราตั้งใจจะลงทุนจริง และมีแผนอยู่ในใจว่าจะทำผลิตภัณฑ์อะไรเท่านั้น

เมื่อถึงวันพรีเซ็นต์ ผมก็ไปตามนัด แล้วเล่าให้เขาฟัง (มีเจ้าหน้าที่มาฟังแค่คนเดียว) ดูไม่ได้เป็นทางการอะไรเลยครับ สบายๆมากๆ (ง่ายกว่าไปขายงานให้ลูกค้าเป็นร้อยเท่า) ก็คุยกันไป สอบถามกันบ้าง แนะนำแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และให้กำลังใจเราอีกต่างหาก

กรณีของผม เราทำแอพสำหรับจัดการร้านค้า ซึ่งเป็นระบบที่ทำงานบนมือถือ และมุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือให้กับ SME รายเล็กๆ ให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งเขาก็เอาใจช่วยเรามากๆ แถมยังบอกอีกว่าทำเสร็จเมื่อไหร่ เอากลับมาให้ดูด้วย เผื่อจะแนะนำให้เพื่อนฝูงที่มีร้านค้าใช้บ้าง … ดีจัง

เบ็ดเสร็จก็คุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเจ้าหน้าที่ก็แนะนำว่า ถ้าได้รับการอนุมัติแล้วต้องทำอะไรบ้าง (ตอนฟังตอนนั้น ผมก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า “ตรูผ่านชัวร์” แต่ก็เตรียมใจเผื่อความล้มเหลวไว้ด้วย)

  1. โทรไปสอบถามผลการอนุมัติ

ผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมก็โทรไปที่เบอร์ที่ได้รับแจ้งว่าให้โทรไปที่เบอร์นี้ ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกคน (อย่าโทรไปหาคนที่เราพรีเซ็นต์ให้ฟัง) ก็เข้าใจนะครับ แต่ละคนแต่ละงานกัน เจ้าหน้าที่คนที่สองก็รับสายและขอเวลาค้นข้อมูลนิดนึง สักพักก็โอนสายไปที่เจ้าหน้าที่ท่านแรก (คนที่ผมพรีเซ็นต์ให้ฟัง) สรุปต้องไปถามคนเดิม (ผมแอบขำเล็กๆ) แต่ก็ได้รับแจ้งว่าเรื่องยังไม่ผ่าน ให้ติดต่อมาวันหลัง (แต่ก็ไม่ได้บอกวันที่แน่นอน)

คราวนี้ผมเลยเปลี่ยนแผน ปล่อยให้เวลาผ่านไปจนเลยกรอบ 15 วันทำการ (ที่ BOI กำหนดว่าต้องมีคำตอบให้ผู้ยื่นขอสนับสนุน) แล้วค่อยโทรไปสอบถามผล

และก็ได้รับคำตอบ “เรื่องของคุณได้รับอนุมัติแล้วค่ะ เชิญเข้ามาติดต่อรับเอกสารยืนยันได้เลย”

 boi-winning

ธุรกิจ IT ได้เปรียบสุดๆ ไม่ขอไม่ได้แล้ว

ถ้าเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ผมว่าธุรกิจ IT ได้เปรียบมากๆ เพราะธุรกิจอื่นอัตราการให้การส่งเสริมจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของโครงการด้วย ยิ่งอยู่ไกลยิ่งได้รับสิทธิประโยชน์เยอะ

แต่ธุรกิจ IT ไม่มีข้อจำกัดเรื่องที่ตั้ง ไม่ว่าจะมีออฟฟิตที่ใดในประเทศไทยก็ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดไปเลย นี่ไงครับเหตุผลที่เราไม่ขอไม่ได้แล้ว ถ้าคุณไม่ขอแล้วคู่แข่งคุณมาขอ คุณจะสู้กับเขาได้ยังไง?

 

เกณฑ์ข้อเดียวที่ต้องผ่านให้ได้

มีข้อเดียวจริงๆ นั่นคือ คุณต้องมีงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (ภายในระยะเวลา 3 ปี) จำได้ไหมครับว่า หน่วยงานนี้เขาเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน เพราะงั้นเขาจึงต้องการให้เราลงทุนในประเทศไทยให้เกิดผลประโยชน์ด้านต่างๆตกอยู่ในประเทศ

และยังมีเคล็ดลับด้วยว่าการลงทุนนี้ให้นับรวมค่าเช่าได้ด้วย โดยยังไม่ต้องมีการจ่ายจริงก็ได้ แต่ต้องเป็นค่าเช่าระยะ 37 เดือนขึ้นไป และให้นับรวมค่าเช่าที่จะจ่ายใน 3 ปีแรกมาคิดได้เลย (ซึ่งช่วยได้มากๆครับ)

 

ความเข้าใจผิดของผม

ตอนแรกผมเข้าใจไปเองว่าการขอ BOI มีไว้สำหรับบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทข้ามชาติเท่านั้น และการจะขอได้ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผิดทั้งคู่ครับ บริษัทขนาดไหนก็ขอได้ (ขอให้ผ่านเกณฑ์) และที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว แค่มีไอเดียสามารถนำเสนอได้ก็ขอได้แล้ว และเท่าที่ดูเหมือนว่าการเปิดบริษัทใหม่จะของ่ายกว่าด้วยนะครับ

 

ถ้าสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

ลองดูตามลิงค์เหล่านี้

http://www.boi.go.th/index.php?page=form&language=th

http://www.boi.go.th/index.php?page=index

หรือถ้าอยากสอบถามอะไรผม ก็ติดต่อมาได้ครับที่ tinnakorn@rangypos.com ยินดีช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ

วันที่ ธันวาคม 16, 2014 Tags หมวดหมู่ Uncategorized